วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

เสริมดวงชะตา

เลือกวันเกิดที่ส่งเสริมดวงชะตาลูกรัก

ดูวันข้างขึ้น ข้างแรม อิทธิพลพื้นดวงลูกรักเลือกวันเกิดที่ส่งเสริมดวงชะตาลูกรัก ดูจากวันข้างขึ้นข้างแรมด้วยเป็นสำคัญ เพราะอิทธิพลของพระจันทร์มีบทบาทต่อพื้นดวงของลูกน้อย

“พิ้นดวง”นั้นเป็นพื้นฐานของอุปนิสัยใจคอโดย คร่าวๆ มิได้ทายดวงชะตาของลูกได้ทั้งหมด แต่ก็เป็นคุณลักษณะส่วนเด่นๆ ที่จะต้องปรากฏอยู่ในตัวเลขขใองลูกรักอย่างแน่นอน

วันขึ้น 1 ค่ำ และ วันแรม 1 ค่ำมิ ว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 1 ค่ำ เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กที่อารมณ์ดี มีชีวิตชีวาไม่น้อย ใครเห็นก็รักเพราะเป็นเด็กยิ้มง่าย ไม่งอแงนักเด็กคนนี้จะเติบโตอย่างมีความสุข จะมีเพื่อนมาก มีเป้าหมายชีวิตแจ่มชัด คิดไกล ฝันไกล ใจถึง ยังเสน่ห์แรงเป็นที่หนึ่ง

ที่ต้องดูแล คือ ความถือดีอวดดี ที่จริงเขาก็มีดีให้อวด เพราะเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง เป็นคนเก่ง อาจหาญ กล้าคิดกล้าทำ บางครั้งอาจจะออกแนวหยิ่งๆ และไม่ค่อยจะฟังใครนัก

วันขึ้น 2 ค่ำ และ วันแรม 2 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 2 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กดีที่น่ารักสด ใส ขี้อ้อน มักจะเรียกร้อง ต้องการเอาอกเอาใจจากคนรอบข้างเสมอ ค่อนข้างจะงอแงขี้แย แต่ก็รู้จักประจบเอาใจให้ใครต่อใครลุ่มหลงได้เหมือนกัน เด็กคนนี้จะมีเสน่ห์ในการวางตัว เป็นเด็กที่รู้จักพูดจา กิริยามารยาทน่ารัก สุภาพอ่อนน้อมกับผู้ใหญ่ มีไหวพริบดีเป็นที่หนึ่งแม้ว่าจะดูเป็นเด็กใจดี แต่ก็มีความเจ้าอารมณ์อยู่ไม่น้อย เวลาไม่ได้ดั่งใจจะโมโหร้ายนัก เมื่อโตขึ้นเขาจะเป็นคนที่เข้ากับคนได้เร็ว มีพวกพ้องอยู่หลากหลายวงการ แต่ลึกๆ แล้วเขาเลือกที่จะเปิดใจให้กับบางคนเท่านั้น

ที่ต้องดูแล คือ เรื่องของอารมณ์ และความรู้สึก เพราะเป็นเด็กที่ค่อนข้างอ่อนไหว มักจะขี้น้อยใจ และสะเทือนใจง่าย จึงมักสับสน และมีบุคลิกซับซ้อน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น ประมาณว่าไม่ค่อยเข้าใจตัวเอง แต่เข้าใจคนอื่นๆ ได้ลึกซึ่งนัก

วันขึ้น 3 ค่ำ และ วันแรม 3 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 3 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กที่แสนซน ตามประสาเด็กฉลาด สมองใสไอเดียบรรเจิด เขาจะมีจิตนาการโลดแล่นล้ำลึก และจะมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวไปจนเติบใหญ่เลยทีเดียว เด็กคนนี้จะเติบโตอย่างโลดโผนโจนทะยาน เนื้อตัวอาจจะมีบาดแผลจากวีรกรรมของตัวเอง เพราะชอบทำอะไรท้าทายเกินตัว ด้วยความเป็นเด็กอยากรู้อยากเห็นใจกล้าและสนใจในเรื่องแปลกๆ เมื่อโตขึ้นจะเห็นได้ว่าเขามีบุคลิกของผู้นำ แม้จะโม้เก่งแต่ก็เป็นคนที่คิดฝันอะไรน่าตื่นตาน่าทึ่ง แต่เหมาะจะเป็นนักคิดมากกว่านักปฎิบัติ

ที่ต้องดูแล คือ ความจับจดของเขา ถ้ารู้จักเอาจริงเอาจังมากขึ้น จะไปได้ไกลมาก เพราะมีพื้นฐานเป็นคนฉลาด และคิดอะไรในแง่บวกไม่ค่อยกลัวปัญหาอยู่แล้ว

วันขึ้น 4 ค่ำ และ วันแรม 4 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 4 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กที่ปราดเปรื่อง มาก เขาจะดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ ไม่ใช่เด็กที่ชอบเล่นสนุกไปวันๆ แต่จะเป็นหัวโจกพาลูกน้องไปเล่นที่มากกว่าวิ่งไล่จับ หรือซ่อนแอบแค่นั้นเมื่อโตขึ้นเขาจะออกแนวขาใหญ่ ที่มีบริวาร เพื่อนๆ ยกให้เขาเป็นลูกพี่ เพราะเขาเก่งกาจอาจหาญ ดูแลคนอื่นได้ เคลียร์ปัญหาเก่ง มีความยุติธรรม กล้าเสี่ยง กล้าลุย มักแสวงหาเรื่องเร้าใจ เพราะชอบพิสูจน์ตัวเองพอๆ กับชอบให้คนอึ้งและทึ่ง เขาเป็นเด็กที่อดทนเป็น ไม่ร้องไห้ง่ายๆ มีความคิดอ่านลึกซึ่งเกินตัว และมีหัวใจที่เด็ดเดี่ยวเข้มแข็งเป็นที่หนึ่ง

ที่ต้องดูแล คือ ความดื้อดึงหัวแข็ง และความดุดันของเขา ที่จริงเขาเป็นคนใจกว้างสุดๆ แต่ถ้าโกรธจะใจร้ายปากร้ายสุดๆเหมือนกัน

วันขึ้น 5 ค่ำ และ วันแรม 5 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 5 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กที่อ่อนไหว ใจน้อยอาจจะขี้แยสักหน่อย ชอบให้ใครๆ เอาใจอยู่เสมอ เด็กคนนี้จะเก็บความรู้สึกเก่งไม่แสดงออกว่าโกรธเคืองใคร แต่จะเฮิร์ตอยู่ข้างในลึกๆ ถ้าดูหนังเศร้า หรือฟังเพลงซึ้งๆ น้ำตาจะไหลง่ายๆตามประสาคนใจบางๆ เขาจะเติบโตขึ้นอย่างเด็กมาดดี ฟอร์มจัดแสวงหาความเป็นหนึ่ง ชอบเรียนรู้ กระตือรือร้น ห้าวหาญชาญชัย แข็งนอกอ่อนใน เข้าสังคมเก่งแต่ที่จริงมีโลกส่วนตัวอยู่คนเดียวเป็น

ที่ต้องดูแล คือ ให้เขาเปิดเผยความรู้สึกออกมาบ้าง อย่าเก็บกดนัก เพราะโดยทั่วไปเขาเป็นคนใจดี และห่วงหาอาทรทุกคนอยู่แล้ว แต่ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่ยอมให้คนอื่นยื่นมือมาช่วยตนบ้าง

วันขึ้น 6 ค่ำ และ วันแรม 6 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 6 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จัชะเป็นเด็กที่เอาใจยาก สักหน่อย เพราะเป็นเด็กอารมณ์ศิลปินที่ขี้เบื่อง่าย และรักอิสระสูงมาก เด็กคนนี้จะเติบโตมาอย่างเป็นตัวของตัวเองมาก เขาจะรู้ว่าเขาต้องการอะไร จะไม่ค่อยยอมรับทุกอย่างที่คุณพ่อคุณแม่จัด(หรือยัดเยียด) ให้ เป็นเด็กที่ชอบเล่นของไฮเทค รสนิยมเลิศหรูอินเตอร์ตลอดชอบปาร์ตี้ มีความเป็นนักเดินทาง และนักท่องเที่ยวอยู่ในหัวใจ เมื่อเป็นผู้ใหญ่ เขาจะมีความชัดเจนในตัวเอง ไม่ค่อยชอบอยู่ในกรอบในกติกานัก

ที่ต้องดูแล คือ ความเอาแต่ใจตัวเองเกินไป จนขาดการยืดหยุ่นประนีประนอมในหลายๆ ด้าน

วันขึ้น 7 ค่ำ และ วันแรม 7 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 7 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กที่ไม่ช่างคุย จ้อนัก มาดนิ่งๆ สบายๆ แต่ความคิดอ่านลึกซึ้งหลักแหลมน่าทึ่ง เด็กคนนี้จะโตอย่างน่ารักน่าภูมิใจ เขาจะช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน หรือรับผิดชอบในหน้าที่ของตนอย่างดี เป็นเด็กเรียนเก่งมีวินัย มีความสามารถสูง รู้จักประนีประนอมถ้าโกรธจัดแล้วเอาเรื่องเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรกับใครนัก เมื่อโตขึ้น เขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีเพื่อนๆ รัก และนับถือมากเพราะเป็นคนมรคุณธรรม และเป็นที่ปรึกษาคนเก่งของทุกคนเสมอ

ที่ต้องดูแล คือ ความใจดีของเขา แม้จะเป็นเด็กฉลาด แต่บางทีก็อาจถูกเอาเปรียบเพราะมองโลกในแง่ดีเกินไป

วันขึ้น 8 ค่ำ และ วันแรม 8 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 8 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กที่ฝีปากดีเป็น ที่หนึ่ง คารมคมคายเป็นเลิศ ไม่ใช่คุยเก่งอย่างเดียว แต่มีวาทศิลป์ เด็กคนนี้จะเติบโตอย่างเหนื่อยสักหน่อย ตามประสาคนเก่งที่ต้องการเป็นที่หนึ่งและต้องการความสมบูรณ์เลิศเลอในทุกๆ เรื่อง เขาเป็นเด็กที่มีวินัยรู้จักหน้าที่ของตนเอง เป็นเด็กที่ต้องการความอบอุ่น จึงชอบอยู่กับเพื่อนๆ และครอบตรัว กลัวการอยู่คนเดียว เมื่อโตขึ้นจะเป็นผู้ใหญ่ที่ทะเยอทะยาน จับจ้องที่ความสำเร็จ หาเงินเก่งและบริหารเงินเป็น

ที่ต้องดูแล คือ เรื่องวิธีคิด ควรให้เขาตระหนักถึง คุณค่าในความสุขและความดีงาม มากกว่าจะให้ความสำคัญเรื่องเงินๆ ทองๆ ของนอกกาย

วันขึ้น 9 ค่ำ และ วันแรม 9 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 9 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กที่เอาใจยากสัก นิด เพราะความคิดของเขาไม่เหมือนใคร เป็นเด็กเซอร์ที่ทำให้ใครๆ ประหลาดใจได้ทุกเมื่อ เด็กคนนี้จะเติบโตอย่างโดดเด่น เป็นคนดังในโรงเรียน หรือในกลุ่มเพื่อนๆ เขาชอบการท้าทาย ไม่ปฏิเสธการแข่งขันชอบทำตัวเด่น อาจจะชอบทำอะไรแผลงๆ สนใจในเรื่องแปลกๆ และเป็นเด็กเรื่องมาก แต่ก็เป็นเด็กดี เมื่อโตขึ้นจะเป็นผุ้ใหญ่ที่จริงจังกับชีวิต รู้จักวางแผน จัดการ ไม่ใช้ชีวิตเลื่อนลอยไร้สาระ ไปวันๆ อย่างแน่นอน

ที่ต้องดูแล คือ ความเร่าร้อนรุนแรง ถ้าเขารู้จักควบคุมอารมณ์ได้ก็จะเป็นดีที่สุด สอนให้เขาเข้าใจว่าการรักศักดิ์ศรี ไม่จำเป็นต้องโต้ตอบด้วยการปะทะกับใคร มีมาดดิบๆ ห้าวๆ ได้แต่ถ้าใจเย็นจะดูดีกว่า

วันขึ้น 10 ค่ำ และ วันแรม 10 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 10 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กโรแมนติก มีอารมณ์สุนทรีย์มาก ชอบดูหนัง ฟังเพลง ชอบสายฝน ชอบของสวยๆ งามๆ เป็นพิเศษ เด็กคนนี้จะเติบโตอย่างละมุนละไม เขาจะเก่งศิลปะด้วยพรสวรรค์อันน่าทึ่งโชคชะตาเขาจะต้องพบเรื่องเสียใจ ตั้งแต่เด็ก จึงเป็นเด็กที่มีอารมณ์อ่อนไหว ซึมซับความรู้สึกได้ง่าย แต่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวในใจ ลึกๆ เขามีความฝันบรรเจิด ช่างสังเกต ละเอียดลออ ช่างเลือก เมื่อโตขึ้นจะเป็นผู้ใหญ่ที่อัธยาศัยน่ารัก ถ่อมตนเข้ากับคนได้ดี และชอบสะสมของเก่าๆ ด้วย

ที่ต้องดูแล คือ ความรู้สึกที่เปราะบาง แม้จะดูเป็นคนใจดี และเข้มแข็ง แต่ข้างในเป็นคนคิดมาก

วันขึ้น 11 ค่ำ และ วันแรม 11 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 11 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กที่สดใสน่ารัก มาดดีตั้งแต่เด็กๆ และเลือกว่าจะเล่นกับใคร ไม่ใช่ใครก็ได้จะมาอุ้มหรือเล่นด้วย เด็กคนนี้จะเติบโตอย่างไม่ธรรมดา เพราะค่อนข้างจะเป็นคุณหนูไฮโซ ต้องการเอาใจสูง ชอบของดีๆ ของสวยๆ งามๆ ชอบห้องแอร์ แพ้แดดแพ้ฝุ่น เลือกคบเพื่อน เขาเป็นเด็กหัวดี ฉลาด เรียนรู้เร็ว แต่ดื้อดึง เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง เมื่อโตขึ้นจะเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นผู้นำได้ดี เพราะมีเหตุมีผล มีจุดยืน ชัดเจน ไม่ชอบเที่ยวเล่นไร้สาระ อาจจะดูหยิ่งทะนง แต่ก็ใจดีและซื่อตรงมาก

ที่ต้องดูแล คือ ความทะเยอทะยานที่มีอยู่สูงมาก ถ้าปรับความคิดลงได้จะดี หากสิ่งใดไม่ง่ายดังคาดหวัง จะได้ยอมรับความจริงเป็นบ้าง ไม่ควรหลงตัวเองเกินไปนัก

วันขึ้น 12 ค่ำ และ วันแรม 12 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 12 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กที่เจ้าอารมณ์ พอสมควร ต้องเอาอกเอาใจเขาให้ดี เพราะจะออกแนวขี้งอน ขี้แยเอาใจยาก เด็กคนนี้จะเติบโตอย่างไม่เรียบง่ายอย่างที่คิด เพราะเขาเป็นเด็กที่มีหลายอารมณ์หลายบุคลิก มีทั้งมุมอ่อนโยนขี้งอนช่างพูดช่างฉอเลาะ และมุมห้าวๆ บางครั้งจะโกรธง่าย บางทีก็ว่านอนสอนง่าย แต่จิตใจเขาเด็ดเดี่ยวและหาญกล้าไม่น้อย เมื่อโตขึ้นเขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่มั่นใจในตัวเอง กล้าคิด กล้าแสดงออก รักอิสระ มีความสุนทรีย์ และรักความก้าวหน้า

ที่ต้องดูแล คือ ความดื้อรั้น หัวแข็ง ที่บางครั้งมากจนทำให้เป็นคนไม่ยอมรอมชอมกับใครๆ บ้างเลย และบางทีก็มักพูดจาแรงเกินพอดีไปสักหน่อย

วันขึ้น 13 ค่ำ และ วันแรม 13 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 13 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กน่ารัก มาดนุ่มลุ่มลึก อารมณ์แจ่มใสไม่ชอบซีเรียส เด็กคนนี้จะเติบโตอย่างราบรื่น เรียบร้อยดี เพราะไม่ค่อยชอบทำอะไรโลดโผนนัก มักจะคิดหน้าคิดหลังอย่างมีสติเขาไม่ใช่เด็กที่คึกคักปราดเปรียวนัก จะเรียบๆ ง่ายๆ มั่นคงแต่ไม่เร้าใจ เก่งแต่ไม่เท่ ไม่ทันสมัยแต่จริงใจเสมอ เมื่อโตขึ้นจะเป็นผู้ใหญ่ที่อบอุ่นใจดี ทำงานเก่ง เป็นนักคิด นักวางแผนที่ดี ประสานงานเก่ง ชอบสอนชอบวิเคราะห์เป็นที่หนึ่ง

ที่ต้องดูแล คือ ความคิดที่เป็นมาตรฐานของตัวเอง อาจมีระบบระเบียบมากเกินไปในบางเรื่อง ต้องปล่อยวางบ้าง

วันขึ้น 14 ค่ำ และ วันแรม 14 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 14 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กที่รักสวยรัก งาม รักความสะดวกสบายและปัญญาดีมาก เด็กคนนี้จะเติบโตอย่างไม่ค่อยติดดิน เพราะชอบของหรูๆ ของดีๆ ช่างเลือก เป็นคนมีระเบียบละเอียดลออ จึงต้องการให้ทุกอย่างเพอร์เฟกต์ไปด้วย เขาเป็นเด็กฉลาดแกมโกง มีกลอุบายเพียบ ช่างสังเกต และเรียนรู้ได้เร็วนัก จะเป็นผู้ใหญ่ที่ทำอะไรมีหลักการ มีระบบมีขั้นตอนรัดกุม มีมาดสุขุม รักความถูกต้องและแสวงหาความสำเร็จเป็นที่ตั้ง

ที่ต้องดูแล คือ ความเรื่องมาก บ่นเก่ง และคาดหวังสูงถ้าคิดถึงผลประโยชน์น้อยลงอีกนิดจะดีมาก เพราะตัวเองก็เป็นคนเก่งรอบตัวอยู่แล้ว

วันขึ้น 15 ค่ำ และ วันแรม 15 ค่ำมิว่าจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรม เป็นวัน 15 ค่ำ

เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นเด็กที่น่ารักน่า เอ็นดู เสน่ห์แรง ช่างเจรจา อารมณ์นุ่มนวลละมุนละไม จะเติบโตอย่างมีความสุข จะเป็นที่รักของคนรอบข้าง จะมีเพื่อนมาก เข้ากับคนได้เก่งช่างเทคแคร์และมีน้ำใจกับทุกคนเสมอ มีอารมณ์ศิลป์ ชอบแต่งตัว ชอบเต้นระบำ ติดแนวเฮฮาปาร์ตี้ เมื่อเป็นผู้ใหญ่จะเอาใจใส่ใบหน้าของตัวเองเป็นอย่างดี มักมีความสุขดีกับชีวิตไม่ต้องเหนื่อยยากนัก

ที่ต้องดูแล คือ เรื่องความเป็นคนใจดีเกินไป มองโลกในแง่ดี บางทีจึงต้องเสียใจกับบางสิ่งที่ไม่งดงาม อย่างที่ตนคิดเสมอไป

สีที่ถูกโฉลกกับวันทั้ง 7

ความเชื่อและวัฒนธรรมรวม ทั้งการทำนาย เกิดขึ้นพร้อมๆกับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดเผ่าใดก็จะมีวิธีการทำนายที่แตกต่างกันตามความเชื่อและ วัฒนธรรมการดำรงอยู่ของเผ่าพันธ์ มนุษย์มีวิวัฒนาการ โดยเริ่มจากการอ่านดวงดาว หรือการอ่านสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

ในสมัยโบราณการทำนายใน แถบตะวันออกของเรา บุคคลที่หน้าที่ทำนายมักจะได้รับความเคารพและยกย่องในทุกชนชาติ ละมักจะยากที่จะถ่ายทอดกันง่ายๆอย่างในปัจจุบัน อีกทั้งในการเรียนรู้ต้องใช้ระยะเวลายาวนาน เพราะโดยปกติ โหร หรือผู้ทำนายมักจะอยู่กับผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน

ในยุคหลังๆความรู้เท่า ไม่การณ์ทำให้วิชาโหราศาสตร์ถูกบิดเบียน มีการค้นคว้าและนำมาใช้ใหม่ในรูปแบบผสม ใช้การอ่านจากดวงดาวเป็นหลักในความเชื่อที่ว่า โลกมีธาตุอะไรในชั้นบรรยากาศก็มีธาตุอย่างนั้น เพื่อให้เกิดสมดุลกันทั้งสองฝ่าย มนุษย์มีร่างกายที่ประกอบขึ้นจากธาตุ หากแต่ละธาตุย่อมมีสัดส่วนที่ไม่เท่ากันมีบางคนอาจมีบางธาตุน้อยหรือมากเกิน ไปนั้นก็ขึ้นอยู่กับวันเวลาที่ถือกำเนิด

คงมีหลายคนที่เคยได้ยิน ว่า คนที่เกิดวันจันทร์ชื่อห้ามมีสระ หรือชื่อมีกาลกิณี ต้องเปลี่ยนชื่อกันมาบ้าง เพียงแต่ว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ทราบว่าการตั้งชื่อนั้นอยู่ในตำรา “มหาทักษา” และในมหาทักษาก็มี “จตุรงค์โชค” ซึ่งได้กล่าวถึง4สิ่งที่เป็นตัวส่งเสริมหรือช่วยให้มนุษย์ดีขึ้น และสองในสี่สิ่งที่ว่าก็คือ เสื้อผ้า และอัญมณี เพียงแต่สีที่เราสามารถเลือกใช้ได้นั้นจะเป็นสีที่ขึ้นกับวันเกิดของแต่ละ คน

และเนื่องจากคนแต่ละคน ไม่เหมือนกัน นอกจากรู้จักสีของคนแต่ละวันแล้ว ยังต้องรู้นิสัยพื้นฐานของตนเองด้วย เพื่อที่จะใช้ เสื้อผ้า หรือ อัญมณี ให้เหมาะสมกับบุคลิกและนิสัยของคนแต่ละคน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นคนดื้อรั้น เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ยอมคน เราก็สามารถที่จะใช้สีของศรี เพื่อให้ตัวเรามีความละเอียดอ่อนมากขึ้น แล้วในบรรดาสีที่พูดถึง....สีที่มีคนสงสัยกันมากที่สุดสีหนึ่งก็คือ สีเหลือง สีเหลืองคือสีที่มีสีทั้ง 12 สีในหนึ่งเดียวเช่นสีของไข่มุกหรือโอปอล

ลิงก์สีแต่ละสีมีคุณค่า และมีพลังของตนเอง เพียงแต่ต้องรู้ด้วยว่าในการใช้ จะเป็นเพียง 20% เท่านั้น อีก 80% เป็นการกระทำของตัวเอง ...เวลาสีช่วย ก็ช่วยได้เท่ากับกรรมที่เราทำมาแล้วเท่านั้น เช่น ถ้าเคยหารายได้อยู่ 10,000 บาท เมื่อใช้สีเแล้ว จะหาได้เพิ่มเป็น 1,000,000 บาทคงยาก

ดังนั้น คุณต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับอุปนิสัยที่ขาดของเรา เพื่อเป็นการส่งเสริมหรือแก้ไขด้วย

ใส่บาตรเสริมดวง..ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่..

ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 1 รูป

และกรวดน้ำให้เทวดาที่รักษาดวงชะตา ในเดือนธันวาคม

ก่อนถึงวันปีใหม่ เพื่อขอบคุณเทพ 12 ราศี ดาว 12 ดวง

ที่คุ้มครองดวงชะตามาโดยตลอด และอธิษฐานให้พบสิ่งใหม่ๆ ที่ดีดังลิงก์นี้

ท่านที่เกิดวันอาทิตย์ ใส่บาตรวันที่26 ธันวาคม 2553

ท่านที่เกิดวันจันทร์ ใส่บาตรวันที่ 27 ธันวาคม 2553

ท่านที่เกิดวันอังคาร ใส่บาตรวันที่ 28 ธันวาคม 2553

ท่านที่เกืดวันพุธ ใส่บาตรวันที่ 29 ธันวาคม 2553

ท่านที่เกิดวันพฤหัส ใส่บาตรวันที่ 30 ธันวาคม 2553

ท่านที่เกิดวันศุกร์ ใส่บาตรวันที่ 31 ธันวาคม 2553

ท่านที่เกิดวันเสาร์ ใส่บาตรวันที่ 25 ธันวาคม 2553


เมื่อเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ ให้ทำเช่นนี้อีกครั้ง เพื่อเปิดรับสิ่งที่ดีๆ

และเตรียมของใส่บาตร ดังนี้

1. ดอกบัวตูมสีขาว เท่านั้น ไม่พับ

2. เทียนสีขาวเท่านั้น 12 เล่ม

3. ธูปหอม 12 ดอก

4. น้ำ 1 ขวด พร้อมปัจจัยใส่ซองลิงก์

5. อาหารไม่มีเนื้อสัตว์ เจ หรือมังสวิรัต

ทั้ง 5 ข้อนี้ใส่บาตรพระสงฆ์ 1 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล

เตรียมพร้อมรับดวงชะตาใหม่ในปี 2554 ขอให้โชคดี

มีความสุขสมดั่งปรารถนาด้วยบุญรักษาทุกประการ.

ปลูกต้นไม้เสริมดวง ตามราศีเกิด

ปลูกต้นไม้ เสริมดวง ตามราศีเกิด

ราศีมังกร (16 ม.ค. – 15 ก.พ.) ไม้ มงคลที่ควรปลูก ได้แก่ ต้นแก้ว วาสนา โป๊ยเซียน และกุหลาบ เพื่อเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง ทำให้เกิดโชคลาภ วาสนาให้กับตนเอง และเพื่อเสริมความมั่นคงแก่ลูกหลาน

ราศีกุมภ์ (16 ก.พ. – 15 มี.ค.)
ต้นไม้ ที่เหมาะกับชาวราสีกุมภ์ คือ เฟื้องฟ้า บอนไซ และต้นเข็ม ซึ่งหากได้ปลูกไว้บริเวณหน้าบ้านแล้วล่ะก็จะยิ่งเพิ่มความมั่งคั่ง รุ่งเรือง และมีชีวิตที่ยาวนาน

ราศีมีน (16 มี.ค. – 15 เม.ย.)
ไม้ ที่ช่วยเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง และให้โชคลาภแก่ชาวมีน ก็คือ กล้วยไม้ ต้นวาสนา ที่เชื่อว่าเมื่อปลูกไว้ได้สวยงามและมีการออกดอก จะยิ่งเพิ่มโชคและทำให้สมความปรารถนาในสิ่งที่หวัง

ราศีเมษ (16 เม.ย. – 15 พ.ค.) มะยม และมะขาม คือไม้มงคลที่เหมาะสมกับผู้ที่เกิดราศีเมษ ต้นไม้สองนี้จะเป็นพลังช่วยหนุนให้ชาว
ราศีเมษประสบความสำเร็จในชีวิต นอกจากนี้ยังมีต้นเฟื้องฟ้าที่จะช่วยเสริมความรุ่งเรือง สว่างไสว

ลิงก์
ราศีพฤษภ (16 พ.ค. – 15 มิ.ย.) ไม้ ดอกกลิ่นหอมอย่างโมกและแก้ว คือต้นไม้มงคลที่เหมาะกับผู้ที่เกิดในราศีพฤษภ ซึ่งหากปลูกในตำแหน่งที่เหมาะสม คือปลูกต้นโมกในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้าน และปลูกต้นแก้วทางทิศตะวันออก เชื่อกันว่าจะทำให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง มีโชคลาภ และอุดมสมบูรณ์ตลอดไป

ราศีเมถุน (16 มิ.ย. – 15 ก.ค.) ต้นไม้เสริมดวงของ ชาวราศีเมถุน ได้แก่ โมก ที่จะทำให้เกิดความสุข สดใส ต้นเข็ม ที่หากได้ปลูกไว้บริเวณหน้าบ้านหรือทางเข้าบ้านแล้วจะทำให้เกิดความ รุ่งเรือง ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ไม่กล้ำกลาย ต้นทับทิมเพื่อสร้างความร่มเย็น

ราศีกรกฏ (16 ก.ค. – 15 ส.ค.) ต้นไม้ ถูกโฉลกกับชาวราศีกรกฏ ได้แก่ กล้วยไม้ ชมพู่ วาสนา พลูด่าง และเฟื่องฟ้า โดยเชื่อว่าเมื่อปลูกแล้วจะทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งทรัพย์สิน เงินทอง ความสุข ความสมหวัง ตลอดจนส่งเสริมให้ชีวิตนั้นสดใสเบิกบาน

ราศีสิงห์ (16 ส.ค. – 15 ก.ย.) ชาว ราศีสิงห์ควรปลูกขนุนซึ่งเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งของคนไทย เชื่อว่าจะช่วยหนุนเนื่อง มีคนเกื้อกูล นอกจากนี้ชาวราศีสิงห์ยังควรปลูกต้นจำปี โป๊ยเซียน กล้วยไม้ ด้วยเพื่อส่งเสริมให้การงานก้าวหน้า เจริญรุ่งเรือง และเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น

ราศีกันย์ (16 ก.ย. – 15 ต.ค.) ต้น สนฉัตร คือไม้มงคลชนิดแรกที่เหมาะกับชาวราศีกันย์ โดยควรปลูกทางทิศเหนือและปลูกในวันเสาร์เพื่อเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังควรปลูกต้นมะยม ขนุน และราชพฤกษ์ไว้จะช่วยเสริมให้มีเกียรติและบารมี เป็นที่นับหน้าถือตาของผู้คนที่พบเห็น

ราศีตุลย์ (16 ต.ค. – 15 พ.ย.) ไม้ มงคลสำหรับผู้ที่เกิดราศีนี้ ได้แก่ หมากแดง ปาล์ม พลูด่าง โกสน เชื่อกันว่าปลูกไว้แล้วจะช่วยเสริมให้มีบุญบารมี อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ซึ่งนอกพันธุ์ไม้ข้างต้นแล้ว ต้นไม้เพิ่มโชคของชาวตุลย์ยังประกอบด้วย จำปี จำปา และเฟิร์นข้าหลวง

ราศีพิจิก (16 พ.ย. – 15 ธ.ค.)
ต้นไม้ ที่เป็นมงคลแก่ชาวราศีพิจิก ได้แก่ พวงแสด ปาล์ม เฟื่องฟ้า ซึ่งแสดงถึงความสว่างไสวในชีวิต นอกจากนี้ยังมีเบญจมาศ ขนุนที่ช่วยจุนเจือหชีวิตมั่นคง และว่านสี่ทิศ ที่เชื่อว่าเมื่อปลูกแล้ว เวลาเดินทางไปที่ไหนก็จะแคล้วคลาดปลอดภัย และมีแต่ผู้ให้ความช่วยเหลือ

ราศีธนู(16 ธ.ค. – 15 ม.ค.) ต้นไม้ สำหรับราศีสุดท้ายนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่า การเลี้ยงบัว ซึ่งจะทำให้เกิดความเบิกบาน สานสายสัมพันธ์ในครอบครัวให้เข้มแข็ง นอกจากบัวแล้วยังมีเฟิร์นข้าหลวงที่จะนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศแก่ผู้ปลูก ต้นแก้ว ช่วยขจัดอุปสรรคให้ออกไปจากชีวิต พลูด่างและโป๊ยเซียน ที่จะช่วยเสริมโชคลาภแก่ชาวราศีธนูอีกด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น