วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

พลิกคำพยากรณ"โสรัจจะ" เดือนกุมภาพันธ์ 2555 เทียบ"ก่อการร้าย

สร้าง ความหวาดผวาให้กับคนไทย ตื่นเต้น กันทั่วประเทศอีกครั้ง สำหรับกรณีกลุ่มคนร้ายชาวอิหร่านร่วมกันก่อเหตุระเบิด 3 จุด ระหว่างซอยปรีดีพนมยงค์ 31-35 สุขุมวิท 71 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา และแม้ว่า ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสามารถควบคุมตัว 3 ใน 4 ผู้ต้องหา ได้แล้ว โดยหนึ่งคนร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขาดทั้งสองข้างที่เป็นผลพวงจากการก่อ เหตุวันนั้น และกำลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล


ขณะที่ ทางการไทยออกมายืนยันว่า เป้าหมายของคนร้ายที่มีระเบิด ไม่ได้พุ่งเป้าก่อการร้ายภายในประเทศไทย แต่มีเป้าหมายชัดเจนที่ตัวบุคคล เชื่อมโยงกับเหตุลอบวางระเบิด ในเมืองหลวง 3 ประเทศ ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง คือ ที่ประเทศอินเดีย และจอร์เจีย บ่งชี้ว่ากลุ่มก่อเหตุในไทย และ 2ประเทศที่กล่าวมา พยายามลอบสังหารเป้าหมาย ที่เป็นชาวอิสราเอล เนื่องจากผู้ก่อเหตุใช้วิธีการและระเบิดลักษณะเดียวกัน อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน

พร้อมกับความเชื่อจากหลายๆ ฝ่าย ว่า อิหร่าน อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดมุ่งร้ายชาวอิสราเอลหลายครั้ง นับตั้งแต่ตำรวจไทยจับกุมชายชาวเลบานอน เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ในข้อหา ข้อหาวางแผนก่อเหตุร้าย หลังจากสหรัฐเตือนว่า สถานที่ท่องเที่ยวในไทยอาจตกเป็นเป้าหมายก่อการร้าย กระทั่งทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเมืองหลวงที่หลายๆชาติ ขึ้นแบล็คลิสต์ ออกประกาศคำเตือนให้พลเมืองของตนงดเว้นการเดินทางมาท่องเที่ยว หรือทำธุรกิจ เนื่องจากเป็นเป้าหมายของการก่อวินาศกรรม...และเพิ่งจะมีการยกเลิกการประกาศ คำเตือนไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี่เอง



เหตุระเบิดดังกล่าว เป็นเรื่องที่รัฐบาลไทย รวมถึงนานาชาติ ต่างกุลีกุจอจัดทีมรักษาความปลอดภัยและเข้มงวดการเข้าออกรวมถึงเฝ้าระวัง สถานที่สำคัญ รวมถึงโฟกัสไปที่กลุ่มบุคคล ตลอด 24 ชั่วโมง และบรรยากาศเริ่มกลับมาเคร่งเครียดอีกครั้ง เนื่องจากการก่อวินาศกรรม การลอบสังหารบุคคลสำคัญ ล้วนเป็นปัญหาความขัดแย้งระดับโลก ในเรื่องของชาติพันธ์ ศาสนา ผลประโยชน์ในด้านการเป็นมหาอำนาจทางด้านต่างๆของประเทศใหญ่ๆ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ชาติมหาอำนาจทางเป็นเศรษฐกิจ ทางการทหาร ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และความขัดแย้งของประเทศตะวันออกกลาง ที่นับวันยิ่งมีระดับความรุนแรงหมายเข่นฆ่า สังหารกันเสียอย่างน่ากลัว

เป็นเรื่องที่คนทั่วโลกต้องจับตาดูกัน ต่อไปว่า นอกจาก มหันตภัยธรรมชาติรอบด้านที่ประชากรบนโลกใบนี้ ต้องเผชิญในพื้นที่ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ในปี 2012 แล้ว มหันตภัยทางด้านสังคมอย่างสงครามการก่อวินาศกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของ มวลมนุษยชาติจะเป็นไปในทิศทางใด


แต่ถ้ามองในแง่คำทำนายทางด้านโหราศาสตร์ ย่อมเป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่หลายคนให้ความสนใจ


มติชนออนไลน์ จึงขออนุญาตหยิบคำพยากรณ์ ของ "โสรัจจะ นวลอยู่" โหรชื่อดัง จากหนังสือ "ศาสตร์แห่งโหร 2555" ซึ่งทำนายดวงชะตาของผู้คน รวมถึงทิศทางความเป็นไปของโลกใบนี้ ประจำปีมะโรง พ.ศ. 2555 มาให้ผู้อ่านได้พิจารณากัน


คำพยากรณ์ของโสรัจจะ ในหนังสือเล่มดังกล่าว ระบุไว้ตอนหนึ่งว่า " เนื่องจากการขัดแย้งมาเป็นระยะๆ ของประเทศตะวันออกกลางและสหรัฐที่ผ่านมาตกมาถึงปี 2555 นี้โลกจะต้องอยู่ในช่วงฝันร้าย จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างฉับพลัน ประเทศมหาอำนาจถ้าตัดสินใจหมิ่นเหม่จะพลาด เปิดโอกาสให้นักการทหารใช้กำลังกันทันที มีผู้ถือหางทั้งสองฝ่าย เขม็งเกลียวที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา อาณาบริเวณที่จะเกิดจุดฆาตไปด้วยคือ สหรัฐอังกฤษ อิสราเอล อียิปต์ ซีเรีย เยเมน กลุ่มประเทศปาเลสไตน์ จีน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย บ้านเมืองพินาศวายวอด ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมหาศาล ด้วยอาวุธร้ายแรง อาวุธนิวเคลียร์ อาวุธปรมาณู อาวุธเชื้อโรค อาวุธมหาประลัยห้ำหั่นกัน"


และเมื่อพลิกมาดูคำพยากรณ์ที่ จำแนกเหตุการณ์ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในแต่ละเดือน ซึ่งในคำทำนายของเดือนกุมภาพันธ์ นี้ โหรชื่อดังก็พยากรณ์ไว้ช่วงท้ายว่า

"ทางตะวันออกกลางเกิดสงครามขนาดใหญ่ ทำให้ทั่วโลกขาดแคลนเชื้อเพลิงและน้ำมัน


ประเทศอ่าวเปอร์เซียอยู่ในวิสัยที่จะ คุกรุ่นขึ้นมาอีก ประธานาธิบดีในประเทศหนึ่งจะถูกปองร้าย และก็จะก่อเรื่องขึ้นมาให้โลกยุ่งยากกันอีก


ประเทศที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก คือสหรัฐอเมริกากับจีนปีนี้มีเหตุความไม่ราบรื่นในการสัมพันธ์กับนานาชาติ และภายในประเทศของตนเริ่มมีสัญญาณแห่งการขัดข้อง ความไม่ราบรื่นดังเคย และจะมีผลยืดเยื้อที่จะกระทบต่ออนาคตอย่างแน่นอน .....



อิรัก อิหร่าน และประเทศทางแถบตะวันออกกลางเกิดความตึงเครียดกับประเทศทางตะวันตก สหรัฐอย่างหนัก เข้าสู่วิกฤตไปทั่วโลก

ปลายเดือนสหรัฐจักมีเหตุได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนักในวงการทูตและการสูญเสียดาราคนสำคัญของโลก....

ส่วนหนึ่งคำพยากรณ์ของโสรัจจะ นวลอยู่ เป็นเพียงการหยิบยกมานำเสนอเปรียบเทียบ เพื่อดูว่า มีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน กับประเทศไทย รวมถึงความเป็นไปของประเทศต่างๆ ทั่วโลก หรือไม่เพียงเท่านั้น...




โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน รับทราบ รวมถึง วิเคราะห์(ด้วย)

ที่มา : http://www.matichon.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น