วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เรื่องเกี่ยวกับการแฟที่ผลต่อสุขภาพ

เรื่องเกี่ยวกับการแฟที่ผลต่อสุขภาพ

หลัง จากตื่นนอนตอนเช้าได้กาแฟหอมๆสักแก้วจะรู้สึกกระชุ่มกระชายตลอดทั้งเช้า บางท่านรับกาแฟและขนมบางอย่างเป็นอาหารเช้า หลังจากทำงานก็ยังมี coffee break บาง ท่านยังดื่มหลังอาหารเที่ยงและตอนสายๆ ยิ่งต้องเข้าประชุมกาแฟหอมๆสักแก้วจะทำให้สดชื่นหายง่วง ปัจจุบันการดื่มกาแฟเป็นที่นิยมการอย่างแพร่หลายตามปั้มน้ำมัน ตามห้างสรรพสินค้ามีการขายอย่างมากมาย จะเห็นได้ว่ากาแฟเป็นส่วนหนึ่งหรือบางคนอาจจะเป็นส่วนสองส่วนสามของชีวิต ประจำวัน แต่จะมีใครกังวลหรือไม่ว่าที่เราดื่มทุกวันวันละหลายแก้วแล้วมันมีโทษ หรือคุณประโยชน์อะไรบ้าง หากคุณเป็นคอกาแฟคุณควรจะอ่านบทความนี้

ส่วนประกอบที่สำคัญของกาแฟ

ส่วนประกอบที่สำคัญของกาแฟคือ caffeine หรือมีชื่อทางเคมีว่า 1,3,7-trimethylxanthine ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของยาขยายหลอดลม theophylline

caffeine สามารถพบได้ในหลายชนิดได้แก่ เมล็ดคา เมล็ดกาแฟ ใบชา โคลา caffeineถูกผสมลงในน้ำอัดลม ยาแก้หวัดบางชนิด ยาแก้ปวด ยาลดน้ำหนัก

กาแฟ จะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วหลังจากที่เราดื่มกาแฟและจะถูกขับออกไปครึ่งหนึ่งใน เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกาแฟจะไม่สะสมในร่างกายโดยจะถูกทำลายและขับออกหมด ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีการขับถ่ายกาแฟมากกว่าผู้ที่ไม่สูบ ดังนั้นคนที่สูบบุหรี่หากต้องการการกระตุ้นของกาแฟจะต้องดื่มกาแฟบ่อยกว่าคน ที่ไม่สูบบุหรี่ คนท้องและผู้ที่กินยาคุมกำเนิดจะมีการขับกาแฟน้อยกว่าคนทั่วไป กาแฟจะออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นสมองทำให้รู้สึกสดชื่นและมีสมาธิ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ากาแฟจะทำให้มีการหลั่งสาร cortisone และ adrenaline ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย




ผลดีของกาแฟ

กาแฟ จะกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางทำให้ไม่ง่วง สมาธิในการทำงานดีขึ้น ผู้ที่ดื่มกาแฟจะทำให้ไม่ง่วงนอน มีสมาธิในการทำงาน และยังทำให้ความสามารถในการทำงานดีขึ้น และยังลดอาการปวดเมื่อยเนื่องจากไขหวัด


ผลดีของกาแฟจะทำให้ไม่ง่วงนอนโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานเป็นกะ และช่วยลดอุบัติเหตุขณะขับรถ
กระตุ้น อวัยวะของร่างกายและเพิ่มการเผาผลาญไขมันและช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย กาแฟจะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะอ่อนๆดังนั้นขณะออกกำลังกายหรือหลังออกกำลังกาย ไม่ควรรับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟเพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ

การดื่มกาแฟจะเพิ่มความสามารถในการออกกำลังกายหรือไม่

จาก การศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟจะทำให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น แต่การศึกษาดังกล่าวศึกษาในผู้ชาย คำแนะนำอาจจะดื่มกาแฟสักแก้ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย หากดื่มมากกาแฟจะออกฤทธิ์เสมือนยาขับปัสสาวะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ปริมาณกาแฟที่ขับออกมาทางปัสสาวะหากมากกว่า 12 micrograms/mlจะถูกห้าม(เท่ากับการดื่มกาแฟ 4 แก้ว)

ดื่มนานๆจะติดกาแฟหรือไม่

องค์การ อนามัยโลกกล่าวว่าไม่มีหลักฐานว่ากาแฟจะเป็นสารซึ่งหากดื่มนานๆแล้วจะเสพติด การดื่มกาแฟจะเป็นนิสัยมากกว่าเสพติดเนื่องจากไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณของ กาแฟ และเมื่อหยุดกาแฟบางคนก็เกิดอาการปวดหรือมึนศีรษะเพียงเล็กน้อย

ดื่มกาแฟแค่ไหนถึงจะเรียกว่ามากไป

การ ดื่มกาแฟ 2-4 แก้วอาจจะไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพ แต่หากดื่มมากไปอาจจะมีผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมได้ หากดื่มกาแฟมากเกินไป 4-7แก้วอาจจะเกิดผลเสียอะไรบ้าง

  • นอนไม่หลับ
  • หงุดหงิดง่าย
  • สับสน
  • อารมณ์แปรปวน
  • คลื่นไส้อาเจียน และอาการทางเดินอาหาร
  • ใจสั่นหรือหัวใจเต้นเร็ว
  • กล้ามเนื้อกระตุก
  • ปวดสีรษะ
  • วิตกกังวล

หากท่านเกิดอาการดังกล่าวแสดงว่าท่านดื่มกาแฟมากเกินไป

สำหรับท่านที่ดื่มกาแฟประจำเมื่อหยุดดื่มไป 12-24 ชม ก็จะเกิดอาการของการหยุดการแฟ อาการจะคงอยู่ประมาณ 24 ชม อาการดังกล่าวจะหายไป

ยาที่เรารับประทานจะมีผลต่อกาแฟหรือไม่

ยาหรือสมุรไพรบางชนิดอาจจะส่งผลต่อระดับกาแฟอินในร่างกาย

  • ผู้ที่รับประทานยา Ciprofloxacin (Cipro)หรือ norfloxacin อาจจะทำให้ระดับกาแฟในเลือดสูงขึ้นทำให้เกิดอาการข้างเคียง
  • ผู้ที่ทานยาขยายหลอดลม เช่น Theophylline จะออกฤทธิ์เหมือนกาแฟ อาจจะทำให้เกิดอาการใจสั่น
  • สำหรับผู้ที่รับประทานสมุนไพร Ephedra (ma-huang) ซึ่งอาจจะทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดปกติหรือชัก หากรับร่วมกับกาแฟจะเพิ่มความเสี่ยงดังกล่าว

ผลดีของกาแฟต่อสุขภาพ

  • โรคหอบหืด มีรายงานว่าการดื่มกาแฟวันละ 3 แก้วจะลดอาการหอบหืด หากดื่มมากกว่า 6 แก้วการทดสอบสมรรถภาพปอดจะดีขึ้น
  • กาแฟก็เหมือนกับพืชอื่นๆมีสาร flavanoid ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
  • การดื่มกาแฟจะลดอาการง่วงนอน และทำให้มีสมาธิในการทำงานดีขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานเป็นกะ และลดอุบัติเหตุขณะขับขี่
  • กาแฟช่วยลดอาการซึมเศร้าและคลายความวิตกกังวล
  • การดื่มกาแฟเป็นประจำจะลดอุบัติการณ์การเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ และยังลดอุบัติการณ์ของนิ่วในถุงน้ำดี
  • มีหลักฐานพอจะเชื่อว่าการดื่มกาแฟจะป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อดื่มวันละ 4 แก้ว

กาแฟกันสุขภาพสตรี

  • กาแฟ กับการตั้งครรภ์ The Food Standards Agency ก่อนหน้านี้มีความเชื่อว่าการดื่มกาแฟจะเป็นผลเสียต่อการตั้งครรภ์ แต่จากหลักฐานยังไม่พบผลเสียดังกล่าว ประเทศอังกฤษได้แนะนำว่าการดื่มวันละ 3-4 แก้วขณะตั้งครรภ์ไม่เกิดผลเสีย สำหรับผู้ที่ตั้งท้องหากงดได้ก็น่าจะงด
  • การเป็นหมัน พบว่าหากดื่มกาแฟมากกว่า 1แก้วจะมีโอกาสเกิดการเป็นหมันเพิ่มขึ้น
  • สมาคม สูติของอเมริกาแนะนำสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ก็สามารถดื่มได้ไม่เกินวันละหนึ่ง แก้วโดยไม่ทำให้คลอดก่อนกำหนด หรือเกิดอาการแท้ง แต่หากดื่มมากกว่านี้มีรายงานว่าอาจจะเกิดผลเสียต่อการตั้งครรภ์

กาแฟกับโรคกระดูกพรุน

  • ยัง มีรายงานทั้งสนับสนุนว่าการดื่มกาแฟทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน บางรายงานก็กล่าวว่าไม่เกิดโรค ผู้ที่เกิดโรคกระดูกพรุนมักจะได้รับแคลเซียมไม่พอแนะนำว่าควรจะดื่มนมเริม สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 2 แก้วขึ้นไป

กาแฟกับโรคมะเร็ง

  • มีรายงานจากWorld Cancer Research Fund ว่าการดื่มกาแฟปริมาณปานกลางไม่มีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็ง
  • มีรายงานกล่าวว่าการดื่มกาแฟมีผลดีต่อการป้องกันมะเร็งตับอ่อนเล็กน้อย
  • มีรายงานว่าการดื่มกาแฟอาจจะมีผลป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ๋

กาแฟกับโรคหัวใจ

  • เท่ามีรายงานขณะนี้พบว่าการดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วไม่มีความสัมพันธ์กับโรคหัวใจ

กาแฟกับความดันโลหิตสูง

  • การ ดื่มกาแฟ 2-3แก้วจะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มได้ 3-14/4-13 แต่ยังไม่ทราบกลไกที่ทำให้ความโลหิตสูงขึ้น สำหรับผู้ที่ดื่มเป็นประจำความดันโลหิตอาจจะไม่สูง คำแนะนำ สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรจะลดปริมาณกาแฟลงไม่เกินสองแก้วต่อวัน และควรจะงดดื่มในกรณีที่ความดันจะสูง เช่น การออกกำลังกาย การทำงานหนัก ท่านอาจจะทดสอบว่ากาแฟมีผลต่อความดันหรือไม่โดยวัดความดันโหอต 30 นาทีหลังจากดื่มกาแฟ หากสูงขึ้นควรจะลดหรือเลิก

กาแฟกับโรคเบาหวาน

  • จาก การศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟจะทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินเพิ่มขึ้น 15 % กรดไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น ฮอร์โมน epinephrineเพิ่มสูงขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน
siamhealth



การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์


การจุดธูปบูชา เสริม ดวงชะตาหรือขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นเรื่องของความเชื่อที่สืบทอดต่อๆกันมาการจุดธูป เทียน หมายถึง ไหว้พระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์
การจุดเทียน เป็นตัวแทนของ แสงสว่างชีวิต
ดอกไม้หอม แทนคุณงามความดี ความเจริญ
การสักการะ ถือเป็นการทำอมิสบูชา ให้เกิดมงคลแก่ชีวิต โดยการบูชาสิ่งที่ดี ทำให้ตัวเรา มีบารมีมากขึ้น จึงใจสงบขึ้น

การสักการะใช้ธูปกี่ดอก
1.พระพุทธรูป ใช้ 3 ดอก แทนพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
2.พระสงฆ์ ใช้ 3 ดอก แทนพระรัตนตรัยและผู้มีพระคุณ
3.พระสงฆ์ พระเกจิอาจารย์บรรลุธรรม จุดธูป 9 ดอก แทนพระรัตนตรัยและผู้มีพระคุณ
4.พระพุทธเจ้าหลวง เสด็จพ่อรัชกาลที่ 5 ขอพร จุดธูป 9 ดอก
5.พระโพธิสัตว์กวนอิม ขอพรจุดธูป 9 ดอก
6.พระแม่อุมาเทวี ขอพรจุดธูป 9 ดอก (องค์เทพองค์พรหม)
-บน 39 ดอก - บวงสรวง 16 ดอก
7.ปู่ฤาษี ขอพรจุดธูป 9 ดอก
8.พระภูมิเจ้าที่ -เทพ ใช้ธูป 9 ดอก
- เทวดาธรรมดา 5 ดอก
- ผี 1 ดอก
9.กุมารทอง -จากวัด ใช้ธูป 5 ดอก
- วิญญาณลูก 1 ดอก
10.ไหว้บรรพบุรุษ ให้จุดธูป 1 ดอก
11.ว่านมงคลกาหลง ให้ธูป 5 ดอก
12.พระแม่นางกวัก ให้จุดธูป 9 ดอก

การจุดธูปเพื่ออะไร
การจุดธูป 1 ดอก : เป็นการจุดไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือน วิญญาณภาคพื้น
การจุดธูป 2 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณและการจุดธูปบนอาหาร
การจุดธูป 3 ดอก : เป็นการจุดธูปบูชาพระรัตนตรัย บูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
การจุดธูป 4 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวกับธาตุสี่ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตาราศี
การจุดธูป 5 ดอก : เป็นการจุดธูปบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่และครูบาอาจารย์
การจุดธูป 6 ดอก : เป็นการ จุดธูปเสริมดวงชะตาตามกำลังไฟของอาทิตย์(1) คนที่เกิดวันอาทิตย์
การจุดธูป 7 ดอก : เป็นการจุดบูชาจิตวิญญาณตามศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ และครูบาอาจารย์ที่เสียชีวิตแล้ว
จุดธูป 8 ดอก : เป็นการเสริมดวงชะตา ตามกำลังพระอังคาร (3) และตามจำนวนอัฎฐเคราะห์
จุดธูป 9 ดอก เป็นการจุดธูปบูชาผู้มีพระคุณ พระภูมิเจ้าที่ เทพ เจ้าป่าเจ้าเขา รุกขะเทวดา ศาลพระภูมิ ศาลเทพ
จุดธูป 10 ดอก เกี่ยวข้องกับธาตุไฟ ตามกำลังของพระเสาร์ (7) มีกำลัง 10 เพื่อใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา
จุดธูป 11 ดอก : ใช้บูชาเทวดาชั้นสูง
จุดธูป 12 ดอก : ในการบูชาตามกำลังพระราหู (8) ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา คนที่เกิดวันพุธกลางคืน
จุดธูป 13 ดอก : เป็นเลขไม่เป็นมงคล จึงไม่นิยมจุดบูชา
จุดธุป 14 ดอก ใช้จุดธูปบูชารูปปั้นพระสงฆ์ (เป็นการบูชาคุณพระสงฆ์)
จุดธุป 15 ดอก ใช้สวดบูชาดวงชะตา เกี่ยวข้องกับธาตุ ตามกำลังของดาวจันทร์ (2)
จุดธุป 16 ดอก เป็นการจุดธูปบูชาเทพชั้นสูง บูชาเทพชั้นครู หรือ พิธีกลางแจ้ง ที่มีการอัญเชิญเทวดา ที่สำคัญหมายถึงสวรรค์ 16 ชั้น
จุดธุป 17 ดอก เป็นการเสริมดวงชะตา สวดเสริมดวงชะตา
จุดธูป 18 ดอกไม่นิยมจุด
จุดธูป 19 ดอก บูชาเทวดาทั้ง 10 ทิศ
จุดธูป 21 ดอก บูชาพระคุณของพ่อ การบูชาแม่พระธรณี
จุดธูป 32 ดอก ใช้สวดชุมนุมเทวดาทั้ง 4 ทิศ การไหว้ 16ชั้นฟ้า 15ชั้นดินครับและ 1โลกมนุษย
จุดธูป 39 ดอก การบูชาพระแม่โพสพ
จุดธูป 56 ดอก เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบูชาคุณพระพุทธเจ้า
จุดธูป 108 ดอก บูชาสิ่งสูงสุดทั่วทั้งโลกทุกชั้นฟ้



การนำดอกไม้ มาถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เหมาะสม และ ความหมายของดอกไม้ชนิดนั้น ๆ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่า ดอกไม้ต่าง ๆ ที่เรานำมาถวายให้ท่านนั้น มีความหมายว่าอย่างไร มิใช่ว่า เห็นเขาถวายพวงมาลัย เราก็ถวายตามเขา โดยที่มิได้รู้ถึงความหมายของดอกไม้เหล่านั้นเลย ดังนี้.

- พระพุทธรูป ดอกบัว, ดอกมะลิ, ดอกพุด, เขี้ยวกระแต
- พระพุฒาจารย์โต ดอกบัว, ดอกมะลิ,
- หลวงปู่ทวด ดอกมะลิ, ดอกกุหลาบ
- หลวงพ่อปาน ดอกมะลิ, ดอกกล้วยไม้
- เสด็จพ่อ ร.๕ กุหลาบแดง, กุหลาบชมพู, มะลิหอม
- พระโพธิสัตว์กวนอิม ดอกบัวหลวง ไผ่กวนอิม
- พระแม่อุมาเทวี ดอกดาวเรือง, ดอกกุหลาบแดง, ใบมะตูม
- พระแม่อุมาปางกาลี ดอกชบา, ดอกกุหลาบแดง, หญ้าแพรก
- พระแม่ลักษณ์ ดอกบัว, ดอกกุหลาบแดง, ใบมะตูม, ดอกดาวเรือง
- พระศิวะ ดอกลำโพง, ดอกบัว, ดอกมะลิ
- พระนารายณ์ ดอกมะลิ, ดอกบัว, ดอกดาวเรือง
- พระพรหม ดอกดาวเรือง, ดอกมะลิ
- พระพิฆเนศวร์ ดอกดาวเรือง, ดอกบัวแดง, ดอกกุหลาบ
- พ่อปูฤาษีทั้ง ๑๐๘ พระองค์ ดอกมะลิ, ดอกกุหลาบ
- พระภูมิ ดอกดาวเรือง, มะลิ, กล้วยไม้,
- เจ้าที่ คุณตา คุณยาย ดอกมะลิ, กล้วยไม้
- นางกวัก ดอกกุหลาบ, ดอกมะลิ
- กุมารทอง ขนมที่ต้องมีแล้วถวาย, ดอกมะลิ

***ความหมายของดอกไม้ต่างๆ ตามโบราณท่านมีความเชื่อว่า ดอกไม้แต่ละอย่างนั้น ยังมีความหมายในตัวของมันเอง ท่านจึงนำดอกไม้แต่ละชนิด มาถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อที่ว่าผู้ไดนำดอกไม้อะไรมาถวาย การดำรงชีวิตของผู้นั้น จะได้รับผลตามความหมายของดอกไม้ ที่นำมาถวายให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ ดอกไม้แต่ละชนิดมีความหมายดังนี้

- ดอกมะลิหอม หมายถึง ความร่มเย็นเป็นสุข
- ดอกพุด หมายถึง พบแต่สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่บริสุทธิ์
- เขี้ยวกระแต หมายถึง มองเห็นแต่สิ่งที่ดี
- ดอกบัวหลวง หมายถึง ความสุข, ความสำเร็จ
- กุหลาบแดง หมายถึง ความรักที่สดชื่น
- กล้วยไม้ หมายถึง ทำอะไรราบรื่น
- ไผ่กวนอิม หมายถึง เป็นมิ่งขวัญแก่ตนเอง
- ดาวเรื่อง หมายถึง พบแต่ความรุ่งเรื่อง
- ใบมะตูม หมายถึง มีชื่อเสียง
- ดอกชบา หมายถึง พบความสำเร็จ
- หญ้าแพรก หมายถึง มีความฉลาด
- ดอกลำโพง หมายถึง มีความโด่งดังทั่วฟ้า
- บานไม่รู้โรย หมายถึง รักไม่รู้โรย






ตามความเชื่อของคนโบราณ ในการนำผลไม้ขึ้นหิ้งบูชานั้น จะต้องคัดสรรผลไม้ที่มีชื่ออันเป็นมงคล ส่วนผลไม้ที่มีชื่อไม่เป็นมงคลนั้น ห้ามนำขึ้นบูชาบนหิ้งเด็ดขาด มีทั้งหมด ๑๕ อย่าง ได้แก่


1. ละมุด เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักไม่โดดเด่น ปิดๆ ซ่อนๆ
2. มังคุด เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วไม่ได้ดีเท่าที่ควร ไปไม่ถึงที่สุด มันกุด ๆ ด้วน ๆ ไม่โดดเด่น
3. พุทรา เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วดีในช่วงแรกๆ ช่วงหลังๆ ซาซา
4. มะเฟือง เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักผืดเคือง ไม่อะไรก็อะไร สักอย่าง
5. มะไฟ เชื่อกันว่าทำอะไรแล้วมักต้อง เร่งๆ รีบๆ เหมือนไฟลน ไม่ได้คุณภาพ
6. น้อยหน่า เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักมีปัญหา อุปสรรค เล็กน้อย จุกๆจิกๆ อยุ่เสมอๆ ทำแล้วได้ผลเพียงน้อยนิด
7. น้อยโหน่ง เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว ได้ผลสมบรูณ์เพียงน้อยนิด มีอุปสรรคปัญหา ไม่สมบรูณ์แบบ
8. มะตูม เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วไม่เจริญก้าวหน้า เช่นเดียวกับชื่อที่ตูมอยู่ตลอด ไม่ก้าวหหน้า ไปไม่ได้ไกล
9. มะขวิด เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้วมักจะประสบปัญหา วัสดุอุปกรณ์ หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ครบ ขาดโน่น ขาดนี่เสมอ 10. ลูกจาก เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักจะไม่ยั่งยืน
11. ลูกพลับ เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว ผลงานต้องโดนเก็บใส่ลิ้นชัก ไม่ได้แสดงผลงาน ไม่ก้าวหน้า
12. ลูกท้อ เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว ท้อแท้ เบื่อหน่าย ไม่มีกำลังใจ
13. ระกำ เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว มักจะไม่ประสบความสำเร็จ
14. กระท้อน เชื่อกันว่า ทำอะไรแล้ว สิ่งที่ดีๆ ที่ต้องการเผยแพร่ออกไป กลับสะท้อนมายังจุดเดิม
15. ลางสาด เชื่อกันว่า เป็นผลไม้ที่มียาง ทำอะไรแล้วมักจะมีเรื่อง ยุ่งยากวุ่นวาย


วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ผู้หญิงอ้วนเสี่ยง! เป็นมะเร็งสูง



โรง พยาบาลมหาวิทยาลัยซานซิเลียวของสเปน พบว่าผู้หญิงที่อ้วนเกิน โดยเฉพาะอ้วนจนเสียสุขภาพ จะเสี่ยงกับการเป็นมะเร็งเต้านมตั้งแต่อายุยังน้อยสูงกว่าปกติ


นัก วิจัยได้ศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนไข้มะเร็งเต้านม 524 คน ได้พบว่า ความอ้วนเกี่ยวพันกับการถูกวินิจฉัยโรคพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม ก่อนหน้านั้น นักวิจัยมหาวิทยาลัยกรานาดาเคยศึกษาพบว่า สตรีที่ถูกวินิจฉัยโรคว่าเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุน้อย มักจะมีประจำเดือนเร็วกว่ากำหนดตั้ง 10ปี แสดงว่าการมีประจำเดือนเร็วมีส่วนเกี่ยวพันกับการเป็นมะเร็งทรวงอก โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่อ้วนมากเกินด้วย

ที่มา
http://news.voicetv.co.th/




กล่าวได้ว่ายาลดความอ้วนนั้น เป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคเสียชีวิตได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการที่ผู้บริโภคไม่รู้เท่าทันอันตรายที่มากับยาลดความ อ้วน ขณะเดียวกันเพราะการหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ตลอดจนยาดังกล่าวหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป


ดัง นั้นสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงได้ออกมาเผยให้ทราบถึงการแบ่งชนิดของยาลดความอ้วนที่มีจำหน่ายมากมายใน ท้องตลาด ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นข้อควรระวังในการเลือกรับประทานหรือซื้อยาลดความอ้วนให้ กับผู้ที่นิยมรับประทานยาลดน้ำหนัก

สำหรับยาลดความอ้วน นั้นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ตามตำแหน่งของการออกฤทธิ์ โดยกลุ่มแรกเป็น ยาออกฤทธิ์ที่ทางเดินอาหาร ได้แก่

1.สารที่พองตัวในกระเพาะอาหารโดย ไม่ถูกย่อยสลายให้เป็นพลังงาน เช่น Glucomannan ซึ่งเป็นแป้งที่เป็นเส้นใยธรรมชาติสกัดจากหัวบุก แม้ไม่พบว่าสารกลุ่มนี้มีอันตรายโดยตรง แต่พบผลทางอ้อม เช่น หากรับประทานโดยดื่มน้ำไม่มากพอ อาจทำให้ทางเดินอาหารอุดตันและทำให้อุจจาระแข็งตัว

2.สารยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไลเปส (Lipase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ย่อยไขมันให้อยู่ในรูปที่ร่างกายนำไปใช้ได้ ยาลดความอ้วนประเภทนี้ออกฤทธิ์ทำให้ไขมันประมาณ 1 ใน 3 ที่รับประทานเข้าไปไม่ถูกดูดซึม แต่ก่ออาการข้างเคียงคือ ไม่สามารถกลั้นอุจจาระได้ และอุจจาระจะไม่เกาะรวมกัน ขณะเดียวกันก็จะมีก๊าซและไขมันขับออกมาด้วย ทำให้การดูดซึมวิตามินที่ละลายไขมันผิดปกติ

ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นยาออกฤทธิ์ที่สมองส่วนกลาง ซึ่งยากลุ่มนี้เป็นการมุ่งลดความอยากอาหาร หรือทำให้เกิดความรู้สึกอิ่ม โดยเพิ่มสารเคมีในสมองที่มีชื่อว่า Serotonin หรือ Catecholamine ซึ่งออกฤทธิ์ควบคุมความอยากอาหารและอารมณ์ และ ยาลดความอ้วนในกลุ่มที่ 2 นี้เองที่นำไปสู่อาการข้างเคียงที่ส่งผลต่อสุขภาพ บางชนิดส่งผลต่อลิ้นหัวใจ บางชนิดทำให้นอนไม่หลับ กระวนกระวาย ปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว ปากแห้ง เหงื่อออก คลื่นไส้ และหากใช้ไปนานๆ อาจเกิดภาวะติดยาได้

จากผลดังกล่าวนี้ คือสาเหตุที่ทำให้ยาลดความอ้วนบางชนิดถูกเพิกถอนจากทะเบียนตำรับยา ซึ่งบางชนิดเป็นยาที่ห้ามขายในร้านทั่วไป เพราะจัดอยู่ในประเภทสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่ต้องสั่งใช้โดยแพทย์เท่า นั้น ซึ่งคำแนะนำที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้บริโภคต้องตรวจสอบ ข้อมูลให้ดี เมื่อคิดที่จะลดความอ้วนโดย "การใช้ยา"

และที่สำคัญไม่ ควรหลงเชื่อคำโฆษณาที่ชี้ชวนให้เห็นแต่ผลดี โดยละเลย "ด้านมืด" ที่ไม่ว่าจะอ้วนแค่ไหนก็ไม่คุ้มพอที่จะเสี่ยง เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าการลดน้ำหนักที่ปลอดภัยนั้นยังมีวิธีอยู่มากมาย แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายแต่อย่างไรก็ควรที่จะใจเย็นๆ เพราะการลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายการควบคุมอาหารนั้น จะให้ผลยั่งยืนกว่าการใช้ยานั่นเอง

ที่มา
http://www.vcharkarn.com/

สถิติหญิงไทยอ้วนลงพุงแซงหน้าชาย



กรมอนามัย เผยหญิงไทยมีปัญหาความอ้วนพุ่งสูงถึงร้อยละ 58 แซงโค้งผู้ชายแล้ว โดยเฉพาะวัยรุ่นอายุ 15 ปีขึ้นไป สาเหตุจากการบริโภคอาหารไม่ถูกต้อง

ข้อมูล จากกรมอนามัยที่ได้รับการยืนยันจากนายแพทย์สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย ระบุชัดเจนว่า ขณะนี้คนไทยมีภาวะอ้วน และลงพุงเพิ่มมากขึ้น โดยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พบกลุ่มที่น่าวิกฤตที่สุดก็คือกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยพบว่าเพศหญิงทั่วประเทศมีรอบเอวเกิน 80 เซนติเมตร สูงถึงร้อยละ 58 ส่วนเพศชายมีรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตร เพียงร้อยละ 34 เท่านั้น

ขณะ ที่กลุ่มอายุ 20-29 ปี มีภาวะโรคอ้วนเพิ่ม 7.5 เท่าตัว จากร้อยละ 2.9 เป็นร้อยละ 21.7 ส่วนในกลุ่มอายุ 40-49 ปี อ้วนเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า หากไม่เร่งควบคุมประเทศไทยจะมีคนอ้วนเพิ่มหลายเท่าตัว และกลายเป็นประเทศแห่งการสะสมโรคภัย

สำหรับสาเหตุที่ทำให้คนไทยอ้วน เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากการกินอาหารไม่ถูกต้อง โดยกินอาหารรสหวาน มัน เค็ม เพิ่มขึ้น แต่กินผัก ผลไม้น้อย ที่สำคัญยังขาดการออกกำลังกาย การเผาผลาญไขมันในร่างกายจึงไม่เพียงพอกับอาหารที่บริโภคเข้าไป

นายแพทย์สมยศ ยังเผยผล การวิจัยที่ได้รับการยืนยันจากต่างประเทศ ว่าคนอ้วนมีส่วนทำให้โลกร้อนเพิ่มขึ้น จากความต้องการพลังงานในแต่ละวันสูงกว่าคนทั่วไป ส่งผลให้ต้องมีการทำการเกษตรมากขึ้น เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่ม และยังมีปัญหากับการเดินทาง เพราะคนอ้วนจะต้องใช้เชื้อเพลิงมากขึ้น เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักจากการแบ่งรับน้ำหนัก รวมถึงการใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆจะมีมากกว่าคนปกติ โดยเฉพาะการเปิดแอร์ เพราะร้อนง่ายด้วย


ข้อมูลจาก :



สธ.เตือน3อาหารเสริมใส่ยาลดความอ้วนทำให้ความดันสูง-หัวใจเต้นเร็ว



"จุรินทร์"รมว.สธ. เตือนอาหารเสริม 3 รายการใส่ยาลดความอ้วนควบคุมพิเศษ ทำให้ความดันโลหิตสูง และหัวใจเต้นเร็ว

นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรืออย.เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสถานที่จำหน่ายอาหารบริษัท เฮลท์ ดี ดี อินเตอร์ จำกัด มาตรวจสอบพบไซบูทรามีน ซึ่งเป็นยาลดความอ้วนและเป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์และขายได้ เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น

ทางอย.ได้ออกประกาศผลตรวจเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2553 พบไซบูทรามีนจำนวน 3 รายการ ดังนี้

1. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทเวนตี้โฟร์ เชฟ สารสกัดจากส้มแขก ผสมแอล-ออร์นิทีน, แอล-ไลซีน, แอล-อาร์จินีน, เคลป์, สารสกัดจากมะขามป้อม, วิตามินซี, วิตามินบี 6 และโครเมียม เลขสารบบอาหาร 12-1-05551-1-0001 ผลิตโดยบริษัทไอพรีเฟอร์ยู จำกัด จัดจำหน่ายโดยบริษัทเฮลท์ ดีดี อินเตอร์ จำกัด รุ่น 01A09 MFD 09/04/52 EXP09/04/54 ตรวจพบ "ไซบูทรามีน"

2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไฟว์ เชฟ สรรพคุณอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้ควบคุมน้ำหนัก ติดสติ๊กเกอร์ Manufactured by I Prefer You Co., Ltd. จัดจำหน่ายโดยบริษัท เฮลท์ ดี ดี อินเตอร์ จำกัด บรรจุ 40 แคปซูล ฉลากไม่ระบุเลขสารบบอาหาร บนแผงพิมพ์แจ้ง "5 SHAPE BATCH 001 MFG.25/05/52 EXP.25/05/54" พบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเลขสารบบอาหารจากสำนักงานคณะ กรรมการอาหารและยา ไม่แสดงชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตเป็นภาษาไทย และไม่แสดงคำเตือน อีกทั้งตรวจพบ "ไซบูทรามีน"

3. ผลิตภัณฑ์กาแฟปรุงสำเร็จชนิดผง กาแฟคาปูชิโน่ ตรา ทเวนตี้โฟร์ เลขสารบบอาหาร 12-1-05551-2-0001 ผลิตโดยบริษัทไอพรีเฟอร์ยู จำกัด จัดจำหน่ายโดยบริษัท เฮลท์ ดี ดี อินเตอร์ จำกัด BATCH 002 MFG. 11/06/09 EXP. 11/06/11 มีสติ๊กเกอร์ติด "กาแฟ 24 คาปูชิโน่ สูตรเห็ดหลินจือ" ตรวจพบ "ไซบูทรามีน"

นอกจากนี้นายจุรินทร์ระบุอีกว่า การพบยาไซบูทรามีนในอาหารเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จัดเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ซึ่งผู้ใดผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับกรณีการผลิตหรือจำหน่ายอาหารที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง จะมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท และกรณีเข้าข่ายการผลิตหรือจำหน่ายอาหารปลอม ซึ่งเป็นอาหารที่มีการแสดงฉลากเพื่อลวงให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าได้รับเลข สารบบอาหารแล้ว จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปีและปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 100,000 บาท ทั้งนี้ อย. ได้สั่งให้ทางบริษัทงดจำหน่ายและเรียกคืนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว พร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไปแล้ว พร้อมขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอย่า ซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้ง 3 รายการในรุ่นการผลิตดังกล่าวมาบริโภค เนื่องจากอาจเป็นอันตรายหรือไม่ปลอดภัยต่อร่างกายและยังไม่ได้รับอนุญาตเลข สารบบอาหารจาก อย. ส่วนผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ ความดันโลหิตสูง และหัวใจเต้นเร็ว แม้จะไม่มากนักแต่มีผลให้ผู้ป่วยประมาณร้อยละ 5 จำเป็นต้องหยุดยา ส่วนผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้แก่ ปากแห้ง ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ และท้องผูก โดยยานี้ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด ผู้ป่วยที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ดี ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ ผู้ป่วยโรคตับ ผู้ป่วยโรคไต ผู้ที่มีโรคต้อหิน รวมไปถึงหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เป็นต้น

หากผู้บริโภคพบเห็น ผลิตภัณฑ์รุ่นดังกล่าววางจำหน่าย หรือแม้กระทั่งพบการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลอกลวงผู้บริโภคให้ร้องเรียน มายังสายด่วน อย. โทร 1556 อีเมล์ 1556@fda.moph.go.th หรือสามารถมาร้องเรียนได้ด้วยตัวเองที่ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียน ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย. อาคาร 1 ชั้น 1 ทุกวันเวลาราชการ เพื่อ อย. จะได้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข้อมูลข่าวจากhttp://www.thaipbs.or.th/Crime/

คนวัยไหนมีทุกข์มากที่สุด

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต


วัย ที่มีทุกข์มากที่สุด คือวัยที่ปล่อยชีวิตไป ตามดวง ตามโชคชะตา ตามเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ปรับตัวไม่ทันกับสังคมไทย ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มัวหลงยึดวัตถุเป็นสรณะ มากกว่าธรรมะ ไม่เข้าใจว่า วัตถุให้แค่ความสะดวกสบาย แต่ธรรมะให้ความสุขสงบเย็น


อยากจะบอกกับทุกๆ วัยว่า


การ เกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก คนที่รัก ก็เป็นทุกข์ เพราะสิ่งเหล่านี้ คือสัจธรรม ความจริงของชีวิตต้องรู้เท่าทันมัน


"ความทุกข์ที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน"



ที่มา...ธรรมะเดลิเวอรี่
http://www.dhammajak.net/

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ปล่อยปลาแต่ละชนิดมีความหมายอย่างไร

ปล่อยปลาแต่ละชนิดมีความหมายอย่างไร

ปล่อยปลาแต่ละชนิดมีความหมายอย่างไร


คุณรู้ไหมว่า...ปล่อยปลาแต่ละชนิดมีความหมายอย่างไร

ปลาชนิดต่างๆ ซึ่งมีอยู่หลายชนิดนั้น แต่ละชนิดมีความหมายในการทำบุญแตกต่างกันไป ทำไป

เพื่ออะไรบ้าง เรามารู้จักปลาชนิดต่างๆ และความหมายของปลาเหล่านี้กันคะ


ความหมายของการปล่อยสัตว์

ปลาไหล หมายถึง การเงิน การงาน การเรียนจะราบรื่น

ปลาหมอ หมายถึง เพื่อสุขภาพ

ปลาบู่ หมายถึง ทดแทนผู้มีพระคุณ

ปลาดุก หมายถึง ศัตรูคู่แข่งแพ้พ่าย

ปลานิล หมายถึง ทรัพย์สินเพิ่มพูน

ปลาช่อน หมายถึง ช้อนเงินทอง สิ่งที่ซ่อนเร้นจะได้พบ

ปลาทับทิม หมายถึง ทำอะไรราบรื่น

ปลาสวาย หมายถึง เงินทองคล่องตัว

ปลาขาว หมายถึง ปลานำโชค

ปลาจารเม็ด หมายถึง จะได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ปลาใน หมายถึง ได้เป็นเจ้าคนนายคน

ปลาดุกเผือก หมายถึง ปลามงคล

ปลาดำราหู หมายถึง สะเดาะเคราะห์

ปล่อยกบ หมายถึง ขออุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวร

หอยขม หมายถึง ทิ้งความขมขื่น จะร่มเย็นเป็นสุข

หอยโข่ง หมายถึง หนทางโล่งเป็นผู้นำ ข้าทาสบริวารมาก

ตะพาบ หมายถึง ภัยคุกคามต่างๆจะราบ อัมพาตจะดีขึ้น อายุมั่นขวัญยืน

สำหรับผู้ที่เกิดแต่ละวัน มีเคล็ดในการทำบุญต่าง ๆ กันไป ดังนี้

บุคคลใดที่เข้าสู่เบญจเพศ อายุลงท้ายเลข 5 ,9 เช่น 25 29 35 39 45 49 55 59 เป็นต้น

คนเกิดวันอาทิตย์ ให้ปล่อยปลาไหล

คนเกิดวันจันทร์ ให้ปล่อยนก

คนเกิดวันอังคาร ให้ปล่อยหอยขม

คนเกิดวันพุธ ให้ปล่อยปลาไหล

คนเกิดวันพฤหัส ให้ปล่อยเต่า

คนเกิดวันศุกร์ ให้ปล่อยปลาหมอ

คนเกิดวันเสาร์ ให้ปล่อยปลาไหล

จำนวนสัตว์ที่ปล่อย ถ้ามีกำลังทรัพย์ ก็ให้มากกว่าอายุ สำหรับคนที่มีรายได้น้อยไม่สะดวกเรื่องเงิน

ให้ถือเลขอายุลงท้ายเลขคู่ ให้ปล่อยสัตว์จำนวนเลขคี่ อายุลงท้ายเลขคี่ ให้ปล่อยสัตว์จำนวนเลขคู่

อายุ 24 ปล่อยสัตว์จำนวน เลขคี่ 1 3 5 7 9 ...ฯลฯ

อายุ 25 ปล่อยสัตว์จำนวน เลขคู่ 2 4 6 8 10 12 14 ... ฯลฯ


วันต้องห้ามตามคติโบราณ

วันต้องห้ามตามคติโบราณ

วันต้องห้ามตามคติโบราณ


วันต้องห้ามตามคติโบราณ

ขึ้นบ้านวันเสาร์,เผาผีวันศุกร์,โกนจุกวันอังคาร...

ขึ้นบ้านวันเสาร์

เนื่องจากว่าวันเสาร์ตามหลักโหราศาสตร์แล้วถือกันว่า เป็นวันแห่งโทษทุกข์ และดาวเสาร์ยัง

จัดเป็นดาวแห่งบาปเคราะห์อีกด้วยแต่กา รขึ้นบ้านใหม่ ต้องการความร่มเย็น ความสุขและความมั่นคง

ถาวร ความเจริญ ดังนั้นคนโบราณจึงห้ามมิให้ประกอบพิธีเกี่ยวกับการปลูกสร้าง บ้านเรือน เช่น การยก

เสาเอก วางศิลาฤกษ์ เปิดป้ายอาคาร หรือแม้กระทั่งการย้ายเข้าสู่บ้านใหม่

เผาผีวันศุกร์

ตามคติโบราณท่านห้ามทำการฌาปนกิจศพกันในวันศุกร์ เพราะชื่อของวันศุกร์นั้น ไปคล้องจอง

กับคำว่า "สุข" ดัง นั้นเมื่อเอาความสุขไปให้คนตาย เป็นการกระทำอันไม่เป็นมงคล ความทุกข์ทั้งหลาย

ก็จะต้องตกมาถึงคนเป็นหรือผู้ที่ทำ การดังกล่าว ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ดาวศุกร์เป็นดาวรื่นเริง บันเทิงใจ

ดาวสังคม และความรัก ซึ่งตรงกันข้ามกับความทุกข์ ความหม่นหมอง ดังนั้นคนโบราณจึงได้ห้ามการ

กระทำดังกล่าวเอาไว้และม ีคำพูดที่ให้ท่องกันติดปากว่า "เผาผีวันศุกร์ ให้ทุกข์คนยัง"

โกนจุกวันอังคาร

วันอังคารนั้นถือว่าเป็นวันแรงวันหนึ่ง เพราะดาวอังคารคือดาวแห่งเทพเจ้าของสงคราม คนโบราณ

ท่านว่าวันเจ้าแห่งสงครามนี้เหมาะแก่การออกรบ หรืองานที่ต้องการความแข็งแกร่ง ความเด็ดขาดมากกว่า ไม่ควรใช้วันดังกล่าวเพื่อกระทำการที่เป็นมงคล หรือต้องการความร่มเย็น ความผาสุก และลาภผลต่างๆ เช่นการโกนจุก

การขึ้นบ้านใหม่ พิธีมงคลสมรส เป็นต้น เพราะถ้าหากนำวันนี้ไปใช้แล้วก็อาจจะมีการทะเลาะวิวา ทกัน

หรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็ได้ เพราะดาวอังคารยังจัดเป็นดาวแห่งอุบัติเหตุอีกด้วย

แต่งงานวันพุธ

ในทางโหราศาสตร์เราจะรู้ได้ว่า ดาวพุธเป็นดาวแห่งความแปรปรวน มักมีการโคจรที่ผิดปรกติอยู่

เสมอ เดี๋ยวดีเดี๋ยวช้า เดี๋ยวเดินเร็ว แต่สักพักกลับเดินถอยหลัง ด้วยสาเหตุดังกล่าวคนโบราณจึงถือว่า

ดาวพุธเป็นดาวที่ หาความแน่นอนและความมั่งคงไม่ได้ จึงไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้วันนี้เป็นวันประกอบ

พ ิธีมงคลสมรส เพราะอาจจะทำให้คู่บ่าวสาวมีจิตใจที่โลเล ไม่มั่นคงกับคู่ครองของตนเอง ซึ่งจะนำพา

ไปสู่การนอกใจและหย่าร้างกันในที่สุด

พุธห้ามตัด, พฤหัสห้ามถอน

วันพุธห้ามตัดผมและตัดไม้ เพราะวันพุธเป็นวันแห่งการเจริญเติบโตและวิวัฒนาการ ถือว่าถ้า

ตัดผมวันพุธจะทำให้ปัญญาทราม ส่วนวันพฤหัสนั้นเป็นวันครูเป็นวันที่นิยมเรียนวิชา ทำให้มีความเจริญ

ก้าวหน้ารุ่งเรือง ดังนั้นไม่ควรถอน หรือโค่นทำลายสิ่งใดๆก็ตาม และในวันพฤหัสนี้ทางโบราณยังห้าม

เรื่องการแต่งงานอีก ด้วย เพราะวันนี้คือวันครู ดังนั้นไม่ควรกระทำการดังกล่าวในวันนี้เพราะถือว่าเป็น

การไม่เคารพนับถือครู บาอาจารย์

สงฆ์ 14, นารี 11

ความหมายคือ ท่านห้ามมิให้ทำการใดๆ ให้แก่พระสงฆ์ ในวันขึ้น 14 ค่ำ และแรม 14 ค่ำทั้งสิ้น

เช่น การบวชนาค การอุปสมบท และการฉลองพระเป็นต้น เพราะถือกันว่าวันนั้นเป็นวันโกน พระสงฆ์

ทุกรูปจะต้องปลงผมในวันนั้น ถือเป็นการตัดราศีของพระท่าน จึงไม่ควรให้ท่านทำการมงคลใดๆ ส่วน

นารี 11 โบราณท่านห้ามมิให้ทำการใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสตรีเพศในวันขึ้น 11 ค่ำและวันแรม 11 ค่ำ

ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสมาคมสตรี เปิดโรงเรียนสตรี หรือเปิดหอพักสตรีก็ตาม


แต่งหน้าให้เข้ากับราศี

แต่งหน้าให้เข้ากับราศี

แต่งหน้าให้เข้ากับราศี


Your Makeup Horoscope (Lisa)

ลองเมกอัพแนวใหม่ๆ ดูบ้าง และในขณะเดียวกันก็เสริมด้านที่ดีของชีวิตด้วยการเลือก

เมกอัพสีใหม่ๆ ที่เข้ากันกับราศีเกิดของคุณ

ราศีมังกร

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ
สีน้ำตาล
ทำไม คุณเป็นคนที่มีเหตุผล มั่นคง และติดดิน นี่เป็นสีที่ช่วยเสริมให้คุณรู้สึกมั่นคง ใกล้ชิดกับความเป็น

จริง และเป็นตัวของมากที่สุดฅ


วิธีการ สี น้ำตาลเป็นสีกลางๆ ที่ใช้ได้ง่ายสำหรับยามกลางวัน สำหรับยามค่ำคืน ใช้สีทองเมทัลลิกทา

ทับเพื่อเพิ่มความแวววาวและดูสนุกสนานขึ้นโดยไม่ดูเว่อจน เกินไป

ราศีกุมภ์

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ สีม่วง
ทำไม เป็นสีที่ปลุกเร้าความกรุณาและความมีมนุษยธรรม มันสะท้อนถึงความเข้าอกเข้าใจโลก ความมี

อุเบกขา และดูเป็นมิตร


วิธีการ ลองแต่งสโม้กกี้อายด้วยสีม่วง มันเป็นสีที่เซ็กซี่อย่างมาก

ราศีมีน

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ สีเขียวน้ำทะเล
ทำไม เป็นสีที่สื่อถึงความไว้วางใจและความกระจ่างใสและจะเพิ่มความซื่อสัตย์และความสามารถในการ

อ่านใจคน


วิธีการ ทาสีเขียวน้ำทะเลให้ทั่วเปลือกตา แล้วใช้สีน้ำตาลทาทับจากขอบตาขึ้นไปที่รอยพับเปลือกตา

และเน้นความคมเข้มด้วยอายไลเนอร์สีดำ

ราศีเมษ

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ สีแดง
ทำไม สีนี้สื่อถึงความรัก ความแข็งแกร่ง และความกล้า การใช้สีแดงจะเพิ่มความแข็งแกร่งพลังงาน

และความกระปรี้กระเปร่า ในเวลาที่เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ หรือเริ่มทำอะไรบางอย่าง


วิธีการ ทาสีแดงทับอายแชโดว์สีเทาหรือสีน้ำตาล เพื่อลดความสดแรง และอย่าลืมหยอดตาก่อน เพื่อ

ที่สีแดงจะได้ไม่ทำให้ตาขาวดูเป็นสีแดงระเรื่อ

ราศีพฤษภ

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ สีชมพู
ทำไม สีนี้สื่อถึงความรัก มันยังเป็นสีที่นำความสงบมาสู่จิตใจ จึงเหมาะมากเมื่อคุณต้องการการเยียวยา

ทางอารมณ์ เพ่อช่วยเปิดหัวใจและเพิ่มการรับรู้


วิธีการ เพื่อไม่ให้ดูตาแดงเหมือนกระต่ายเลือกสีชมพูเจือสีขาว หรือสีชมพูกุหลาบที่ไม่จัดจ้านเกินไป

ราศีเมถุน

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ สีเหลือง
ทำไม ช่วยให้เพิ่มพลังงานและกระตุ้นความรู้สึกกระฉับกระเฉง เพราะเป็นสีที่สว่างและเปล่งประกายที่ช่วย

ทำให้จิตใจของคุณคึกคักสดใส


วิธีการ ใช้สีเหลืองสดใสเติมเข้าไปที่หัวตาและใต้โหนกคิ้ว เพื่อเพิ่มความสว่างแก่การแต่งตาในสไตล์

สโม้กกี้

ราศีกรกฏ

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ สีเขียว
ทำไม สีนี้ช่วยชุบจิตใจให้กระปรี้กระเปร่า มันสะท้อนถึงความมั่นคงและช่วยปลอบประโลมจิตใจ ทำให้คุณ

มีความสมดุล และมีความสงบที่ดึงดูดผู้คนเข้ามาหาคุณ


วิธีการ ลองเลือกสีเขียวมะกอกทาให้ทั่วเปลือกตาและที่แนวขนตาล่าง แล้วเน้นความคมเข้มด้วย

อายไลเนอร์สีดำรอบดวงตา

ราศีสิงห์

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ สีส้ม
ทำไม สีนี้สะท้อนถึงอำนาจและความยิ่งใหญ่ ช่วยเพิ่มความรู้สึกรื่นรมย์และการมองโลกในแง่ดีทั้งยัง

ช่วยทำให้คุณเป็นจุดสนใจมากขึ้นด้วย


วิธีการ ลองทาสีส้มเป็นอายไลเนอร์เพื่อให้เด่นเด้งและใช้พู่กันเปียกๆ ทาเพื่อให้สีเข้มขึ้น

ราศีกันย์

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ สีน้ำเงินเข้ม
ทำไม สีนี้สะท้อนถึงความงาม ความบริสุทธิ์ และปัญญา มันช่วยบรรเทาความตึงเครียด ส่งเสริมความ

รู้สึกสงบ และเป็นสีที่ดูเป็นมิตร


วิธีการ เหมาะสำหรับการทาเป็นอายไลเนอร์ เนื่องจากทำให้ตาขาวดูขาวสดใสขึ้น หรือแต่งตาสไตล์

สโม้กกี้ด้วยสีน้ำเงินที่ดูนุ่มนวลกว่าสีดำ

ราศีตุล

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ สีฟ้า
ทำไม สีนี้เป็นสัญลักษณ์ของความสงบและสันโดษ แต่ก็เป็นสีที่สดใสช่วยกระตุ้นอารมณ์ในแง่ดี สีนี้

ช่วยส่งเสริมความสมดุลของชีวิตและความมีสุขภาพ


วิธีการ ทาสีฟ้าอ่อนทั่วเปลือกตา และจับคู่กับสีเงิน ทาใต้โหนกคิ้ว ซึ่งเป็นลุคเจ้าหญิงน้ำแข็งที่เหมาะ

กับปาร์ตี้

ราศีพิจิก

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ เบอร์กันดี้/เบอร์รี่
ทำไม สีนี้ดลใจให้รู้สึกถึงความเข้มแข็งและความรัก มันช่วยให้พลังแก่คุณในการก้าวไปข้างหน้าในช่วง

ของการเปลี่ยนแปลง เพิ่มแรงผลักดันและความอดทน


วิธีการ ใช้สีเบอร์กันดี้แบบเนื้อแมตต์เป็นอายไลเนอร์ เพื่อเน้นดวงตา หรือใช้แบบเนื้อชิมเมอร์แต่งแบบ

สโม้กกี้อาย แล้วเขียนอายไลเนอร์สีดำ

ราศีธนู

สีอายแชโดว์สำหรับคุณ สีเขียวหัวเป็ด/สีน้ำเงินอมเขียวฅ
ทำไม สีนี้จะเพิ่มปัญญาและการมองโลกในแง่ดี มันส่งเสริมความอดกลั้น ความเข้าอกเข้าใจ และเป็น

ประโยชน์อย่างมากในการรับมือกับคนอื่นที่มีมุมมองที่แตกต่างออกไป


วิธีการ สี เขียวอมน้ำเงินเข้มๆ เหมาะอย่างมากสำหรับการแต่งสไตล์สโม้กกี้ ลองเอามาผสมกับสีน้ำตาล

ชินนามอนหรือสีน้ำตาลเข้ม เพื่อให้ได้สีที่ดูเป็นกลางมากขึ้น